|
พระพิมพ์ไกเซอร์ (วัดระฆังฯ)
องค์พระ เศียรบาตรไม่มีเกศ ใบหน้ากลมใหญ่ มีหูติ่ง ลำคอสั้น หน้าอกนูนกว้าง หัวไหล่มนทั้งสองข้าง วงแขนทั้งสองข้างทอดโค้งกลมลงมาจรดหน้าตัก หัวเข่ามนงอนรับวงแขน หน้าตักตรง ฐานบนมีบัวห้ากลีบรองรับหน้าตัก บัวกลีบกลางจะใหญ่กว่าบัวกลีบข้างทั้งสองข้าง ฐานกลางเป็นฐานสิงห์ ฐานล่างเป็นฐานหน้ากระดานตั่งขาโต๊ะ มีซุ้มผ่าหวายครอบองค์พระรอบองค์เสมอกันชัดเจน องค์พระนั่งผึ่งผายสวยงามมาก เรียกว่าพิมพ์ไกเซอร์ ขนาดสูง 5.8 ซม. กว้าง 3.7 ซม. หนา 5 มม.ขนาดประมาณกล่องไม้ขีดไฟ
เนื้อพระ เป็นเนื้อผงวิเศษทั้งห้า มีผงอิทธิเจ ผงปัตถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ข้าวสุก กล้วยน้ำ กล้วยหอมจันทร์ เกษรดอกไม้ มี ดอกกาหลง ดอกสวาท ดอกรักซ้อน ใบพลูร่วมใจ ใบพลูสองหาง ขี้หรือไส้เทียนบูชาพระพุทธ ดินเจ็ดโป่ง ดินเจ็ดป่า ตะไคร่เสมา ขี้ไคลพระพุทธ ใบราชพฤกษ์ ดอกชัยพฤกษ์ กระแจะตะนาวศรี น้ำเซาะหินที่หยดในถ้ำ ผงใบลาน ผงปูนเปลือกหอย เอามาผสมกันแล้วตากให้แห้ง เอาน้ำอ้อยเคี่ยวจนเป็นยางมะตูมผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้ผงดำโรยจนทั่วนวดด้วยน้ำมันตังอิ๊วจนเนื้อไม่ติดมือ จึงเอาไปกดพิมพ์ เนื้อแห้งจะขาวอมเหลือง แข็งแกร่ง เหนียวและหนึกนุ่มวัดระฆัง
(องค์ในภาพทั้งสององค์มีการลงรักปิดทองมาแต่เดิม เป็นของเว็บมาสเตอร์ นำมาให้ชมประกอบคำบรรยายครับ)
สร้างตอนครองสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
นายจอน วงศ์ช่างหล่อ กับ หลวงวิจาร เจียรนัย เป็นผู้แกะพิมพ์ถวาย
ปัจจุบันเรียกพระพิมพ์ไกเซอร์ (วัดระฆังฯ)
วันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เวลา 9 โมงเช้า ท่านเจ้าประคุณได้นิมนต์พระ 5 รูปสวดชยันโตเบิกพระเนตรแม่พิมพ์ พอเสร็จพิธีอัญเชิญแม่พิมพ์ไว้ในพานแว่นฟ้ารอผงที่จะพิมพ์เป็นองค์พระ
พระพิมพ์ไกเซอร์นี้ ท่านเจ้าประคุณได้ทำถวายให้พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป ทำได้ประมาณ 300 กว่าองค์ แม่พิมพ์ก็แตก ตั้งใจว่าจะทำประมาณ 500 องค์ ถวายพระพุทธเจ้าหลวงและผู้ติดตามประมาณ 200 องค์ แจกพวกบ้านช่างหล่อที่มาช่วยกดพิมพ์พระประมาณ 10 กว่าคนๆละ 1 องค์ ที่เหลือถวายพระพุทธเจ้าหลวงก่อนเสด็จประพาสยุโรป 5 วัน พระพิมพ์นี้ท่านเจ้าประคุณได้ทำการปลุกเสก 3 เดือน หรือ 1 ไตรมาส ออกพรรษาแล้วแช่น้ำมนต์อีก 7 วัน นำมาผึ่งให้แห้งเก็บใส่พานไว้หน้าพระพุทธรูปบูชา แล้วเอาผ้ากราบปิดเอาไว้จนกว่าจะทูลเกล้าฯถวายก่อนเสด็จประพาสยุโรป แต่เสด็จประพาสไม่ถึงยุโรป เสด็จประพาสแค่สิงคโปร์และชวา ได้เสด็จประพาสยุโรปในภายหลัง เป็นพระพิมพ์ที่ปลุกเสกนานที่สุดเท่าที่ทำพระมาทั้งหมด
มีเรื่องเล่าว่า พวกข้าราชการที่ตามเสด็จได้เล่าถึงอภินิหารพระสมเด็จพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑเศียรบาตร(ไกเซอร์) นี้ว่า ตอนที่พระพุทธเจ้าหลวงได้สนทนากับพระเจ้าไกเซอร์ พระเจ้าไกเซอร์ได้ทอดพระเนตรเห็นที่กระเป๋าของพระพุทธเจ้าหลวงมีรัศมีเป็นสีแดง มีสีเขียวสีเหลืองรอบกระเป๋าเสื้อ จึงทรงถามว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋า พระพุทธเจ้าหลวงก็ได้หยิบพระสมเด็จในกระเป๋าเสื้อให้ทอดพระเนตรและตรัสว่า เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธเอาติดตัวไว้ป้องกันภัยต่างๆ ที่จะมาถึงตัว ทำให้พระเจ้าไกเซอร์สนพระทัย พระพุทธเจ้าหลวงจึงทรงถวายให้เป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสยุโรป พอพระเจ้าไกเซอร์เอาใส่กระเป๋าก็มีแสงรัศมีออกมา ทำเอาผู้ติดตามไปแปลกใจว่า พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีพระบุญญาธิการมาก พระพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑเศียรบาตรจึงเรียกว่า พระพิมพ์ไกเซอร์ตั้งแต่นั้นมา พวกข้าราชการในวังได้ตั้งราคาเช่าบูชาถึง 5 ชั่ง ซื้อนาได้ถึง 100 ไร่ ใครๆก็มากันที่วัดระฆังฯเพื่อจะหาพระพิมพ์ไกเซอร์ไว้บูชาแต่ก็ไม่มี มีแต่พระพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑแต่ฐานไม่มีบัวรองรับแทนพระพิมพ์ไกเซอร์ พระพิมพ์ไกเซอร์นี้เป็นพิมพ์ที่หายากมากที่สุด
(บทความนี้คัดลอกมากจากหนังสือสมเด็จโต ของอาจารย์แฉล้ม โชติช่วง และอาจารย์มนัส ยอขันธ์)
|
