พระนางพญา กรุวัดนางพญา เนื้อดิน พิมพ์สังฆาฏิ จ.พิษณุโลก สภาพเดิมๆ ไม่มีหักหรือซ่อม องค์นี้เป็นของคุณวีรพรรณ อยู่ที่ กทม. สมาชิกของเว็บไซต์นี้ นำมาให้เช่าบูชา หากท่านใดสนใจ ติดต่อได้ตามเบอร์โทร.ที่ได้แจ้งไว้แล้ว





หมายเหตุ พระเครื่องตามโครงการสมาชิกฝากขาย เว็บไซต์ไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
วัดนางพญา สันนิษฐานว่าร้างโดยพระวิสุทธิกษัตรีย์ พระองค์สร้างพระนางพญาในคราวบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะ พื้นที่ติดกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุมหาวิหาร(วัดใหญ่)โดยมีถนนจ่าการบุญคั่นกลาง
นอกจาก?นั้นอยู่ติดกับวัดราชบูรณะ แต่ปัจจุบันถนนสายมิตรภาพตัดผ่าน ทำให้วัดนางพญากับวัดราชบูรณะ จำเป็นต้องตั้งอยู่คนละฝั่งถนนและได้ขึ้นทะเบียนโบราณ?สถานในปี พ.ศ.2497 เฉพาะ?วิหารปัจจุบันเป็นอุโบสถ และเจดีย์ย่อมุมไม้สิบ 2 องค์
พระนางพญา กรุวัดนางพญา
วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถมีแต่วิหาร วัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องพระเครื่อง คือ “นางพญา” ซึ่งเล่าลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ พระนางพญาจึงเป็นพระสุดยอด หนึ่งในชุดเบญจภาคี
ปัจจุบันนี้หายากมากเป็นพระสุภาพสตรีที่เป็นนักปกครองและหัวหน้างานที่ต้องดูแลลูกน้องหรือพนักงานจำนวนมาก โดยมีความเชื่อว่าจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชายำเกรงประดุจ “นางพญา”
พระประธานในอุโบสถเรียก”พระสมเด็จนางพญาเรือน” สร้างพระเครื่องพิมพ์นางพญา และเจดีย์เก่า 2 องค์ มีมาคู่กับวิหารนางพญา สร้างขึ้นเฉลิมพระเกียรติพระนางวิสุทธธิกษัตรีย์ วิหารชำรุดทรุดโทรม ทางวัดได้บูรณะของเก่าทำให้เป็นอุโบสถ ซึ่งพระบาทสมเด็จภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานพระฤกษ์สร้างอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ.2521
พระนางพญา อายุการสร้างประมาณ 400 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ไม่มีฐาน ไม่มีซุ้ม ตัดขอบเป็นรูปสามเหลี่ยมชิดกับองค์พระประทาน หลัง?เรียบ สันนิษฐานว่า พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของพระมหาธรรมราชา และพระมารดาของพระสุพรรกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระสมเด็จเอกาทศรถ เช่นนั้นพระวิสุทธิกษัตรีย์ได้ทรงสร้างพระนางพญา ในคราวบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะ ราวปี พ.ศ.2090-2100 และทรงสร้าง”พระนางพญา” บรรจุในองค์พระเจดีย์ตามคติโบราณ
พิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวง และพระวิสุทธิกษัตรีย์ ดำรงค์ตำแหน่งยศ แม่เมืองสองแคว และพระมหาธรรมราชา ทรงพระอิสริยยศที่ พระอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา
วัดนี้ต่อมาได้ถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นเวลานานเนื่องจากมีเหตุผลศึกสงคราม จนกระทั่ง?มีการขุดพบเจอ”พระนางพญา” วัดนางพญาจึงมามีชื่อเสียง ได้มีการพบพระนางพญาครั้งแรกในปี พ.ศ.2444 โดยทางวัดมีดำริสร้างศาลาเล็กๆ ขึ้นบริเวณด้านหน้าของวัด เพื่อเป็นปะรำพิธีในการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่?หัว รัชกาลที่5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก ทอดพระเนตรการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ครั้นพอขุดจะลงเสาก็ได้พบ”พระนางพญา” จำนวนมากฝังจมดินอยู่กับซากปรักหักพังจึงได้เก็บรวบรวมไว้ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 เสด็จไปยังวัดนางพญา จึงนำพระนางพญาส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ครานั้นพระองค์ทรงแจกจ่ายแก่ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จกันโดยทั่วหน้า พระนางพญาบางส่วนจึงมีการนำกลับมายังพระนคร
พระนางพญา กรุวัดนางพญา พิมพ์กลาง
ต่อมาในปี พ.ศ.2470 พระอธิการถนอม เป็นเจ้าอาวาส และตามธรรมชาติองค์?พระเจดีย์ด้านทิศตะวันออกของวัดได้เกิดพังทลายลง ก็ปรากฏพบพระนางพญาอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ปรากฏว่าชาวเมืองพิษณุโลกมิมีผู้ใดสนใจ
ดังนั้น พระนางพญาที่พบเจอจึงถูกเก็บไว้ในวัดนางพญา และบางส่วนอาจถูกนำไปบรรจุยังกรุอื่นๆ ดังนั้นประวัติความเป็นมาของ”พระนางพญา แห่งวัดนางพญา” จึงเป็นเหตุสำคัญในการอ้างอิงถึงการพบพระนางพญาในกรุอื่นๆ ที่ จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ก็มีการพบที่กรุวัดอินทราราม วัดเลียบ สันนิษฐานว่าเป็นพระที่ได้มาเมื่อปี พ.ศ.2444 แล้วนำมาบรรจุกรุในเจดีย์ตามวัดต่างๆจะมีอยู่มากน้อย ไม่สามารถระบุได้ แต่เมื่อผ่านกาลเวลา สภาพองค์พระในแต่ละสถานที่ย่อมแตกต่างกันไปตามสภาพกรุที่บรรจุ
อย่างไรก็ตาม พระนางพญา แห่งวัดนางพญา เป็นพระเนื้อดินเผา องค์พระจึงมีสีไม่เหมือนกันและเนื้อดินมีขนาดแตกต่างขึ้นอยู่กับหดตัวของดินเมื่อถูกเผาตามอุณหภูมิ พุทธศิลป์ผสมผสานระหว่างศิลปะสุโขทัยและอยุธยา ผ่านกาลเวลามานานจึงมีรอยเหี่ยวย่นจากการหดตัวของมวลสาร
ปัจจุบันพระนางพญาจึงได้ถูกจัดให้เข้ามาอยู่ในชุดเบญจาภาคี เพราะเป็นพระเครื่องที่สุดยอดปรารถนาของนักนิยมพระเครื่อง ผู้ใดได้ครอบครองเป็นเจ้าของเชื่อว่าผู้นั้นเปี่ยมด้วยวาสนา บารมี
|